EN / TH
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(PRIVACY POLICY)
บริษัท ราชประสงค์ ฟู้ดเซอร์วิสเซส จำกัด และบริษัทในเครือตามเอกสารแนบท้าย (ต่อไปนี้เรียกว่า“บริษัท”) คำนึงถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาความปลอดภัยของข้อมูลรวมทั้งความเป็นส่วนตัวของท่านอย่างดีเพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่าบริษัทมีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผยหรือโอนข้อมูลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องบริษัทจึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ต่อไปนี้เรียกว่า“นโยบาย”) เพื่อชี้แจงให้ท่านได้ทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผยข้อมูลของท่านหรือการโอนข้อมูลดังกล่าวของบริษัทดังต่อไปนี้
1) คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมได้แก่ชื่อนามสกุลที่อยู่วันเดือนปีเกิดเพศประวัติการศึกษาหมายเลขโทรศัพท์เลขประจำตัวประชาชนแต่ไม่ครอบคลุมถึงข้อมูลของผู้ที่เสียชีวิต
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึงข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคลแต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเช่นเชื้อชาติความคิดเห็นทางการเมืองประวัติอาชญากรรมข้อมูลสุขภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันกับที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
“คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นโดยมีหน้าที่และอำนาจกำกับดูแลออกหลักเกณฑ์มาตรการหรือข้อปฏิบัติอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ.ศ. 2562
“บริษัทในเครือ” หมายถึงบริษัทที่มีรายชื่อตามตารางแนบท้ายนโยบายฉบับนี้
2) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้กระทำได้ภายใต้วัตถุประสงค์และเพียงเท่าที่จำเป็นตามกรอบวัตถุประสงค์หรือเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมโดยต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือโดยวิธีอื่นใดของบริษัท
กรณีที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลบริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวมเว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้
3) การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอมและจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้อย่างไรก็ดีเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลบริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บริษัทในเครือหรือบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศเช่นผู้ให้บริการต่างๆที่ต้องดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลโดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าวบริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับและไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้
นอกจากนี้บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเช่นการเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการหน่วยงานภาครัฐหน่วยงานกำกับดูแลรวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายเช่นการร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมายหรือการร้องขอจากหน่วยงานเอกชนหรือบุคคลภายนอกอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย
4) วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัทเช่นการทำสัญญาต่างๆการให้บริการพื้นที่เช่าการสมัครสมาชิกการให้บริการห้องรับรองรวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆการดำเนินกิจกรรมบริษัทการติดต่อประสานงานต่างๆหรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นการจัดทำฐานข้อมูลวิเคราะห์และพัฒนาระบบกระบวนการดำเนินงานและกิจการอื่นใดของบริษัทและ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมายและ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของบริษัทโดยบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
บริษัทจะไม่กระทำการใดๆแตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลเว้นแต่
- ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
- เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
5) มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
-
การดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการในการรกัษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหายเข้าถึงใช้เปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
-
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ประมวลผลข้อมูล
บริษัทจะกำกับดูแลบุคคลอื่นซึ่งบริษัทมอบหมายให้ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัทอย่างเหมาะสม
6) สิทธิของเจ้าของข้อมูล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้ทั้งนี้การเพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงการขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ให้ความยินยอม
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
- สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการร้องเรียนในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเห็นว่าบริษัทมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรหรือผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์โดยแจ้งความประสงค์มายังบริษัทผ่าน“รายละเอียดการติดต่อของบริษัท” ด้านล่างนโยบายฉบับนี้พร้อมการยืนยันตัวตนของเจ้าของข้อมูลโดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องฯของเจ้าของข้อมูลภายใน30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องฯดังกล่าวทั้งนี้บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้
7) การทบทวนนโยบาย
บริษัทจะทำการทบทวนนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวหรือในกรณีที่กฎหมายมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงบริษัทจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไขนโยบายเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัทโดยบริษัทจะแจ้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวให้ทราบอย่างชัดเจนทั้งนี้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ให้มีผลนับตั้งแต่วันที่1 พฤษภาคม2565 เป็นต้นไป
8) รายละเอียดการติดต่อบริษัท
หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือหากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ราชประสงค์ ฟู้ดเซอร์วิสเซส จำกัด และบริษัทในเครือ
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
เลขที่999 ชั้น4 อาคารเกษรเซ็นเตอร์ถนนเพลินจิตแขวงลุมพินีเขตปทุมวันกรุงเทพมหานคร10330
โทร. 02-656-1149
อีเมลล์[email protected]
บริษัท ราชประสงค์ ฟู้ดเซอร์วิสเซส จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัท ราชประสงค์ ฟู้ดเซอร์วิสเซส จำกัดและบริษัทในเครือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฎด้านล่างนี้เป็นข้อมูลณวันที่1 พฤษภาคม2565 หากท่านต้องการที่จะทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบันโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดการติดต่อด้านล่าง